พุน้ำร้อน หนองหญ้าปล้อง - เพชรบุรี

     ปัจจุบันนี้สังคมชีวิตของคนเมืองนั้น  มันเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แข่งขัน ยื้อแย่ง และการชิงดีชิงเด่นกันมากมาย  อากาศก็มีส่วนทำให้จิตใจของคนเรานั้นเปลี่ยนแปลงจากนางฟ้าและเทวดาให้กลายเป็นอสูรร้าย เกลี้ยวกลาด หยาบคาย และอีกมากมายนานับประการ  สังคมของเมืองนั้นมันไม่ได้มีความสุขอย่างที่สมควรจะเป็น  ดังนั้นคนเมืองจึงคอยที่จะเสาะหาสถานที่ ที่พวกเขาสามารถไปหาที่พักผ่อนหย่อนใจ  เพื่อพักจิตพักกายรับเอาพลังธรรมชาติมาต่อสู้กับสิ่งใหม่ ๆ ในสังคมเมืองอีกครั้ง  การตู้สู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดนั้นมันก็เริ่มขึ้นอย่างไม่ลดละอีกเหมือนกัน  การงานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดต่าง ๆ นา ๆ ก็ประเดประดังเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

     สถานที่พักผ่อนอันเป็นที่รื่นรมนั้นก็คงหลีกไม่พ้นจากธรรมชาติอันเต็มไปด้วยแมกไม้อันเขียวขจี  และธารน้ำไหลเย็นชื่นใจ หรือสถานที่ใดอันเป็นที่สงบรายล้อมไปด้วยพลังะรรมชาติจากพื้นดิน ป่า เขา อันที่เราหาได้อย่างไม่ไกลเกินเอื้อม  สถานที่อีกแห่งอันเป็นสถานที่อันสงบ เต็มไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์และสภาพอันร่มรื่นรอบตัวของท่านก็เห็นจะเป็นที่ " พุน้ำร้อน - หนองหญ้าปล้อง จังหวัด เพชรบุรี นี่ล่ะ  สถานที่นี้เป็นอีกแห่งที่มีผู้คนนิยมไปอาบน้ำแร่แช่กายากันอย่างไม่ขาดสาย  ได้ทั้งธรรมชาติ  ได้ทั้งสุขภาพ  อันเป็นที่ปรารถนาและถูกอนามัยของผู้คนทั้งหลาย  ระหว่างการเดินทางนั้นสองระแวกทางก็เต็มไปด้วยธรรมชาติ อันมีป่าเขาล้อมอบ สูดอากาศที่บริสุทธิ์เข้าปอดได้อย่างเต็มอิ่ม  การเดินทางนั้นอาจไม่ค่อยสะดวกนักถ้าหากนักท่องเที่ยวไม่ได้มียานพาหนะเป็นของตัวเอง ส่วนสถานที่ตั้งนั้น บ่อน้ำพุร้อนหนองหญ้าปล้อง ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน หมู่5 ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง อยู่ห่างจากจังหวัดเพชรบุรีประมาณ 45 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ 150 กิโลเมตร

     หากท่านกำลังมองหาะรรมชาติเพื่อเติมพลังให้ชีวิตของตัวท่านเอง  เพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการกลับมาสู้กับสังคมเมืองต่อนั้น  ที่นี่เป็นอีกที่หนึ่งที่สามารถช่วยให้ท่านคลายความเครียด ความกังวน และความอึดอัดขัดเคืองใจได้เป็นอย่างดี  พุน้ำร้อน หนองหญ้าปล้อง แห่งนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ อันเนื่องมาจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษณ์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมกันนั้นก็เพียงแต่ เสาร์-อาทิตย์ และบางฤดูกาลก็มีคนเข้าเยี่ยมชนน้อยกว่าที่คาดเอาไว้  เพราะเนื่องด้วยบางครั้งธรรมชาติก็ไม่ได้อำนายต่อการเดินทางสักเท่าไหร่ จึงทำให้ความสงบนั้นยังคงอยู่ในที่แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง  สัตว์ป่าก็มีให้เห็นกันอยู่เนือง ๆ และผู้คนในระแวกที่อยู่อาศัยนั้นต่างก็เป็นมิตรอย่างที่หาไม่ได้ในสงคมเมืองอีกด้วย

     ธรรมชาติอันสวยงามในปัจจุบันนี้แทบจะเลือนหายจากสายตาของคนเมืองไปแล้วทีละนิด ส่วนใหญ่แล้วป่าคอนกรีดนั้นดูเหมือนจะมีอิทธิพลมาอยู่พอสมควร สิ่งนี้เองจึงทำให้สังคมคนเมืองเกิดปัญหาความคัดแย้ง อารมณ์ไม่เสถียร และความอดทนนั้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเจน  แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับผู้คนที่อยู่อาศัยร่วมกันกับธรรมชาติ เขาเหล่านั้นใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเรียบง่าย ไม่มีต้องแข่งขัน ไม่ต้องแย่งชิงให้ได้มาซึ่งความสำเร็จ หากแต่อยู่ด้วยความเรียบง่ายและร่าเริง แข่งกับตัวเองไปวัน ๆ ซึ่งก็ถือว่ามีความสุขในแบบฉบับของพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง

    ธรรมชาตินั้นไม่เคยให้โทษแก่ผู้ใด หากแต่ว่าผู้นั้นก้ควรเคารพในกฏของธรรมชาติด้วยเช่นกัน  เราก็จะอยู่ด้วยกันได้อย่างผาสุกไม่เกิดความเบียดเบียน ไม่มีความแตกแยก  และยังได้ความพิเศษจากะรรมชาติอีกหลาย ๆ อย่างในแบบที่คุณเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน